วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

โรคเก๊าท์ ปวดข้อ โรคเก๊าท์รักษาอย่างไร และจ้อนท์แคร์ (jontkare)


โรคเก๊าท์รักษาอย่างไร




การเกิดของโรคเก๊าท์มีส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงานของไต เนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ในการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย หากไตอยู่ในสภาวะปกติ ไตก็จะสามารถทำงานในการขับกรดยูริคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อไตไม่สามารถทำงานได้ปกติ หรือ ภาวะไตอ่อนแอ ทำให้ขับกรดยูริคออการ่างกายได้น้อย ทำให้เกิดการสะสมของกรดยูริคในร่างกายเพิ่มขึ้นๆ เมื่อไปสะสมในข้อต่อต่างๆ จะทำให้เกิดอาการบวมและเกิดการปวด และกลายเป็นโรคเก๊าท์ตามมา


อาหารกับโรคเก๊าท์
       ผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าท์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวก ตับอ่อน (Sweetbreads) ตับ เซ่งจี๊ ม้าม และลิ้น เพราะอาหารกลุ่มดังกล่าวจะมีธาตุอาหารพิวรีน (Purines) สูง นอกเหนือไปจากนี้แล้วก็ไม่มีกฎตายตัวอะไรสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์ ผู้ป่วยบางรายอาจรับประทานได้เช่นปกติ แต่บางรายอาจต้องจำกัดการรับประทานพวกธาติอาหารพิวรีนดังกล่าว สุดแต่แพทย์จะเป็นผู้ตัดสินว่าท่านจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร ต้องการหรือต้องจำกัด หรือต้องงดอาหารประเภทใดบ้าง ก็ขอให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และข้อแนะนำในการจำกัดสารอาหารพิวรีน



อาหารที่ผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์ต้องงด
   1.พวกเครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ตับอ่อน หัวใจ ไส้ สมอง เซ่งจี๊
   กะปิ
   2.ปลาซาดีน, ปลาซาดีนกระป๋อง
   3.ไข่ปลา
   4.น้ำซุบสกัดจากเนื้อสัตว์, น้ำเคี่ยวเนื้อ (Meat extracts)
   5.น้ำเกรวี (Gravies)

อาหารที่ผู้ป่วยด้วยโรคเก๊าท์ต้องลด (ต้องจำกัด)
   1.เนื้อสัตว์ (เหลือวันละมื้อ)
   2.ปลาทุกชนิด และอาหารทะเลอื่น ๆ เช่น กุ้ง หอย ปู (เหลือวันละมื้อ)
   3.เบียร์ และเหล้าต่าง ๆ
   4.ถั่วบางอย่าง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา
   5.ผักบางอย่าง เช่น หน่อไม้ฝรั่ง, แอสพารากัส, กระหล่ำดอก, ฝักขม, เห็ด
   6.ข้าวโอ๊ต
   7.ข้าวสาลีที่ไม่ได้สีเอารำออก (Whole-wheat cereal)

สมุนไพรรักษาโรคเก๊าท์
แพทย์จีนได้มีการค้นพบว่า สมุนไพรรักษาโรคเก๊าท์ ที่มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงไต คือ เก๋ากี๋ เส็กตี่ และ สูตี้หวง ตัวสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้ จะเข้าไปช่วยบำรุงไตที่อ่อนแอ ให้กลับมาแข็งแรง และช่วยระบายของเสียออกจากร่างกาย รวมทั้งกรดยูริคที่เป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์ แต่ก็ยังมีสมุนไพนไทยที่ยังช่วยเกี่ยวกับโรคเก๊าท์ได้บ้าง เช่น ใบย่านาง ใบยอ และลูกเดือย เป็นต้น ซึ่งสมุนไพรที่จะสามารถรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคเก๊าท์อย่างได้ผลนั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงไต 
1. เก๋ากี๋ สรรพคุณช่วยบำรุงตับและไต บำรุงสายตา
ใช้รักษากลุ่มอาการตับและไตพร่อง สมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงตับและไต บำรุงสารจำเป็น และเลือด บำรุงสายตา รักษาเบาหวาน ถ้าไตพร่อง ปวดเอว ฝันเปียก วิงเวียน มักใช้ร่วมกับสมุนไพรสูตี้หวง

2.เส็กตี้อึ้ง สรรพคุณ บำรุงเลือด บำรุงยิน บำรุงสารจำเป็น บำรุงไขกระดูก มีข้อบ่งใช้
1. เลือดพร่อง ใบหน้าซีดเหลือง วิงเวียน ใจสั่น นอนไม่หลับ ระดูผิดปกติ
2. ไตพร่อง มีไข้ตอนบ่ายค่ำ ไข้เข้ากระดูก เหงื่อออกตอนกลางคืน ฝันเปียก เบาหวาน
3. ตับไตพร่อง สารจำเป็นและเลือดพร่อง ปวดเมื่อยเอวเข่า วิงเวียน หูมีเสียงดัง ผมหงอกก่อนวัย สมุนไพรนี้มีสรรพคุณบำรุงสารจำเป็น และไขกระดูก มักใช้ร่วมกับเก๋ากี๋

 3. ต้าเจ่า สรรพคุณ บำรุงจงเจียว บำรุงลมปราณ บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง ไขมันในเลือดสูง กล่อมประสาท ปรับฤทธิ์ยาให้อ่อนโยน มีข้อบ่งใช้
1. ม้ามพร่อง เบื่ออาหาร ท้องเดิน อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ถ่ายเหลว
2. เลือดพร่อง ซีดเหลือง เลือดไม่พอหล่อเลี้ยงอวัยวะภายใน กระวนกระวาย หงุดหงิด เลือดพร่องซีดเหลือง
3. ใช้เป็นส่วนประกอบของตำรับยาต่างๆ เพื่อช่วยปรับลดความรุนแรง ของยาอื่น ปกป้องลมปราณต้านทานโรค

      MIR ขอเสนอ "ปู่ จิง ตัน"  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ หรือมีกรดยูริคในร่างกายสูง เนื่องจาก "ปู่ จิง ตัน" เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอา สมุนไพรรักษาเก๊าท์ ที่มีสรรพคุณในการบำรุงไตให้แข็งแรง ช่วยลดกรดยูริคในร่างกาย ช่วยในด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบภูมิต้านทาน ระบบทางเดินหายใจ ระบบสืบพันธ์ุ
ในทางการแพทย์แผนจีน จึงให้ความสำคัญกับไตในการทำหน้าที่ขับกรดยูริคออกจากร่างกาย และความสำคัญของการรักษาโรคเก๊าท์ จึงอยู่ที่การใช้ยาสมุนไพรบำรุงไตให้แข็งแรงมีศักยภาพในการขับกรดยูริคและปรับสภาพเลือด ให้ผลึกของกรดยูริคที่สะสมตามข้อสามารถละลายออกมาผู้ป่วยโรคเก๊าท์ก็จะหายเป็นปกติได้  ส่วนผู้ที่ไม่เป็นโรคเก๊าท์ แต่ตรวจพบว่ากรดยูริคสูงในเลือดสูงก็สามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตราย



วงการแพทย์พบว่า กรดยูริคในเลือดที่สูงกว่าร้อยละ 90 เกิดจากร่างกายผลิตเอง MIR ขอเสนอ "ปู่ จิง ตัน"  และ จ้อนท์แคร์ (jontkare) ลดความเสี่ยงและบรรเทาความเสื่อมของข้อและโรคเก๊าท์จากกรดยูริค



ส่วนประกอบสำคัญในจ้อนท์แคร์ (jontkare) 
   1.ผงกระดูกอ่อนจากปลาฉลาม มีสาระสำคัญ ได้แก่ กลูโคซามีนและคอนโดอิทินซัลเฟต เป็นสารที่มีความสำคัญมากต่อข้อต่อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งในกระดูกอ่อนปลาฉลามมีสาระสำคัญได้แก่
     -กลูโคซามีน มีหน้าที่สร้างโมเลกุลที่ซับซ้อน เพื่อใช้ในการซ่อมแซมและหล่อเลี้ยงกระดูกอ่อน โดยการเพิ่มน้ำไขกระดูก
     -คอนโดอีทิลซัลเฟต ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ หรือเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของนวมที่ลดการเสียดสีของปลายกระดูกแข็งสองท่อน จึงทำให้มีคุณสมบัติดีเยี่ยมสำหรับบรรเทาอาการปวดข้อต่อต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะข้อเข่า นอกจากนี้ยังสามารถช่วยชะลอการเสื่อมของเข่าได้ด้วย
   2.สารสกัดจากบลูเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิดีน ที่มีประสิทธิภาพในการลดและยับนั้งการสร้างลิวโคทรีนที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ ทำให้อาการเจ็บปวดและอักเสบน้อยลง
   3.สารสกัดจากขิง ช่วยบรรเทาอาการปวดและบวมตามข้อ เนื่องจากขิงสามารถลดการสร้างฮอร์โมน พรอสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นตัวเริ่มต้นที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ
   4.สารสกัดจากขมิ้น มีสารเคอร์คูมินช่วยชะลอการสร้างพรอสตาแกลนดิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระยับการอักเสบและปวดบวม โดยไปกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งสารคอร์ติโวนเพื่อระงับการอักเสบและความปวด
     
      การป้องกันข้อเสื่อม ผู้ป่วยควรรู้จักการปฏิบัติตัวที่จะไม่ทำให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น เช่น การวิ่ง นังพับเพียบในรายที่มีข้อเข่าเสื่อม หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ในรายที่อ้วนมาก ก็ช่วยลดน้ำหนักตัวลง เพื่อลดแรงที่กระทำต่อข้อลงได้ และการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ไม้เท้า จะช่วยลดการถ่ายแรงที่กระทำต่อข้อของขาได้


    ผลิตภัณฑ์ จ้อนท์แคร์ (jontkare) สามารถป้องกันและแก้ปัญหาโรคข้อเสื่อม ได้ผลจริง

   จ้อนท์แคร์ (jontkare) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้

ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,050 บาท

สั่งซื้อสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://jontkaresaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

คุณ สายบัว  บุญหมื่น    โทร. 088 415 3926

ID Line :    bua300908

อีเมล์    sboonmuen@gmail.com    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น